เรื่องย่อ แค่นี้ก็ดีแล้ว
เช้าตรู่อันแสนสดใสของเมืองฮิกาชิคะวะ เต้ย ชายมาดเซอร์วัย 25 ปี ก้าวลงจากรถบัส พลางสะดุ้งตัวสั่นกับอากาศหนาวที่เข้ามาปะทะใบหน้า ทันใดนั้นก็มีหญิงสาวชาวญี่ปุ่นเดินเข้ามาหาเขา เธอคือยูมิ หญิงสาวชาวเมืองฮิกาชิคะวะซึ่งเป็นคนจัดแจงเรื่องที่พักและอาสามารับเขาเช้าวันนี้
ยูมิพาเต้ยไปที่บ้านพักพร้อมกับมอบถุงขนมเพื่อเป็นการต้อนรับสู่เมืองฮิกาชิคะวะ หลังจากที่ร่ำลากับยูมิ เขาตรงเข้าไปในห้องและผลอยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
บ่ายวันนั้นเสียงเคาะประตูหลายครั้งทำให้เขาสะดุ้งตื่นขึ้น ชายหนุ่มคนหนึ่งได้มาเคาะประตูบ้านพักของเขา เขาต้องการจะขอยืมใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อผู้ดูแลรีสอร์ทเนื่องจากทำกุญแจบ้านหาย ทั้งสองคุยกันเป็นภาษาอังกฤษและต่างก็รู้สึกได้ว่ากำลังคุยกับคนไทยด้วยกัน ชายผู้นี้คือโอ๊ต ซึ่งมาพักอยู่ที่เมืองนี้ได้สี่วันแล้ว เต้ยรู้สึกผิดหวังอย่างมาก เพราะเขาไม่คิดว่าจะต้องมาเจอคนไทยที่นี่
เต้ยลงมือหาสถานที่ใหม่ เพราะอยากจะหนีไปจากเมืองนี้ ด้วยโจทย์ที่แสนยากคือ "เมืองที่ไม่มีคนไทย" แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหาได้ เต้ยถอดใจและนั่งลงรื้อสัมภาระ เขาได้พบหนังสือท่องเที่ยวเล่มหนึ่งที่มีโน้ตสั้น ๆ กับลายมือที่เขาคุ้นเคย ลายมือของ "ไหม" หญิงสาวที่เดินหนีไปจากชีวิตเขา
คืนนั้นโอ๊ตได้ชวนเต้ยออกไปร้านมินิมาร์ท หลังถูกคะนั้นคะยออยู่นานเขาเลยยอมไปกับชายผู้นั้นอย่างไม่เต็มใจนัก และนั่นเป็นคืนที่เต้ยและโอ๊ตได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกัน เรื่องราวของโอ๊ตชายผู้กำลังจะแต่งงาน และเต้ย ชายหนุ่มที่เพิ่งถูกแฟนบอกเลิก
ความสัมพันธ์ของเต้ยและโอ๊ตในช่วงแรกเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากเต้ยปิดตัวเองและพยายามหลีกเลี่ยงทุกเส้นทางที่โอ๊ตไป แต่กำแพงที่เต้ยได้สร้างไว้ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนได้เริ่มกร่อนลงเรื่อย ๆ เพราะชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายอยู่ในจิตใจของเต้ยไม่สามารถพยุงตัวเขาที่โดดเดี่ยวและท้อแท้ในที่ที่ หนาวเหน็บแสนว้าเหว่ โอ๊ตคือคนเดียวที่พูดภาษาเดียวกัน เข้าใจในความเว้าแหว่งของกันและกัน ความห่วงใยต่อกันจึงเกิดขึ้นทีละเล็กละน้อย